การประหยัดพลังงานไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม รู้หรือไม่? ค่าไฟฟ้าเกินครึ่งเกิดจากไฟส่องสว่าง ซึ่งเป็นต้นทุนในการผลิต การทำงาน วิธีลดค่าไฟฟ้าในโรงงาน สามารถทำได้ โดยพิจารณาจากกิจกรรมการใช้งานไฟฟ้าในส่วนต่างๆ เช่น ไฟฟ้าส่องสว่าง ไฟฟ้าเครื่องจักร ฯ ประเมิณระยะเวลาการทำงาน การเปิด-ปิด ใช้งานในแต่ละวัน จะเป็นวิธีลดค่าไฟฟ้าในโรงงาน อย่างง่ายที่สุด และช่วยลดได้มากที่สุด เพราะเครื่องจักรในโรงงานบางประเภทจำเป็นต้องทำงานตลอดเวลา ไม่สามารถปิดพักได้ ทำให้การลดค่าไฟฟ้าในส่วนไฟส่องสว่างที่ใช้ในการทำงาน ภายในโรงงาน สามารถช่วยคุณประหยัดได้มากขึ้น
ค่าไฟฟ้านั้นมากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดจากการใช้ไฟในการส่องสว่าง ซึ่งโรงงานทุกที่ต้องจ่ายอยู่เป็นประจำในทุกๆเดือน การปิดและเปิดไฟฟ้าเพื่อส่องสว่างในการทำงานในแต่โรงงานได้มีการกำหนดเอาไว้อย่างแน่นอนว่า ในแต่ละวันจะมีการเปิดใช้จำนวนกี่ชั่วโมง จึงทำให้การคำนวณค่าไฟฟ้าแสงสว่างนั้นทำได้ไม่ยาก เพราะปริมาณการใช้งานนั้นค่อยข้างแน่นอน คงที เช่น ไฟส่องสว่างสำหรับพื้นที่คนทำงาน เปิด-ปิด ตามเวลางาน 9โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น เป็นต้น แม้ว่าแสงสว่างจะไม่ได้ก่อให้เกิดมูลค่าในสายการผลิตโดยตรง แต่แสงสว่างกลับเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดอย่างนึงเพื่อที่จะให้การทำงาน กิจกรรมต่างๆในอาคารโรงงานได้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
อีกทั้งยังมีกฏหมายกำกับเครื่องความสว่างในที่ทำงานสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย ซึ่งหากติดตั้งหลอดไฟแบบเก่าก็สามารถให้ความสว่างมากกว่าที่กฏหมายกำหนดอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดี หลอดไฟแบบเก่านั้นมีอัตราการกินไฟที่มาก เมื่อเทียบกับหลอดไฟ LED และไม่มีสเปคหรือความแตกต่างให้เลือกได้มากนัก ซึ่งตรงข้ามกับหลอดไฟ LED ที่สามารถเลือกความสว่างได้หลายค่าขนาดได้หลายขนาด มุมองศาสำหรับการฉายแสงที่เหมาะสม และอื่นๆที่อีกมากมายที่ สามารถปรับเลือกให้เหมาะกับความต้องการของโรงงานได้ ตามสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
สำหรับหลอดไฟ LED ที่นิยมติดตั้งที่โรงงานอุตสาหกรรม นั้นเรียกว่า โคมไฮเบย์ เป็นโคมไฟที่ส่องสว่างด้วยกำลังไฟมาก เพื่อให้ส่องสว่างจากเพดานหรือหลังคาสูงของโรงงานลงมายังพื้นที่ทำงาน โคมไฟชนิดนี้มีความทนทานสูง และเป็นโคมไฟที่ถูกแบบมาเพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ การเลือกใช้กำลังไฟขนาดใด ที่จะสามารถช่วยประหยัดไฟฟ้าได้สูงสุดนั้น ควรพิจารณาจากความสว่างที่เหมาะสม และพื้นที่การใช้งานเบื้องล่าง หากเป็นบริเวณที่ทำงาน (working area) จำเป็นต้องมีดูความสว่างเหมาะสำหรับงานนั้นๆ และ พิจารณากฎหมายแสงสว่างสำหรับโรงงานแต่ละประเภท นอกจากนั้นความสูงที่ติดตั้งก็เป็นปัจจัยหลักอีกปัจจัยหนึ่งในการเลือกกำลังไฟที่เหมาะสม โดยกำลังไฟที่แนะนำสำหรับใช้งานกับเพดาน หรือหลังคา สูง ประมาณ 3-5เมตร สามารถเลือกใช้ได้ตั้งแต่กำลังไฟขนาด 100-150w หากเพดานสูงกว่า 5เมตรขึ้นไป ควรพิจาณาใช้กำลังไฟขนาด 150-240w หรือการคำนวนง่ายๆ คือ โคมไฟ led นั้น ใช้กำลังไฟเพียงครึ่งหนึ่งของโคมไฟแบบเก่า ก็สามารถให้แสงสว่างได้มากกว่าความไฟแบบเดิมแล้วครับ
LED | CFL | Incandescent | |
Lightbulb Projected Lifespan | 50,000 hours | 10,000 hours | 1,200 hours |
Watts Per Bulb (equiv. 60 watts) | 10 | 14 | 60 |
Cost Per Bulb | $2.00 | $7.00 | $1.25 |
KWh of Electricity Used Over 50,000 Hours | 500 | 700 | 3000 |
Cost of Electricity (@ 0.10 per KWh) | $50 | $70 | $300 |
Bulbs Needed for 50,000 Hours of Use | 1 | 5 | 42 |
Equivalent 50,000 Hours Bulb Expense | $2.00 | $35.00 | $52.50 |
TOTAL Cost for 50,000 Hours | $52.00 | $105.00 | $352.50 |
ตารางการเปรียบเทียบหลอดไฟ แอลอีดี ฟลูออเรนเซนต์ และ หลอดไส้ *
การเลือกใช้หลอดไฟ LED นั้นเป็นการลงทุนในมุมมองของผู้เป็นเจ้าของโรงงานหรือเจ้าของกิจการ และเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำได้จริงเพื่อให้เกิดการประหยัดการใช้ไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม การโคมไฟหรือหลอดไฟแสงสว่างต่อจากนี้ไปหากโรงงานที่มีการใช้ไฟฟ้าเพื่อส่องสว่างอย่างต่อเนื่องนั้นจะต้องเลือกใช้ หลอดไฟ หรือ โคมไฟ LED อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องด้วยมีความประหยัดคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุดแล้วในขณะนี้